Smart Phone in Future
วันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2557
วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
ประเภทของระบบสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจ
1.จงบอกความหมายของประเภทของระบบสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจ ทั้ง 2 ประเภท
ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ (Decision Support System) เป็นระบบย่อยหนึ่งในระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ โดยที่ระบบสนับสนุนการตัดสินใจจะช่วยผู้บริหารในเรื่องการตัดสินใจในเหตุการณ์หรือกิจกรรมทางธุรกิจที่ไม่มีโครงสร้างแน่นอน หรือกึ่งโครงสร้าง ระบบสนับสนุนการตัดสินใจอาจจะใช้กับบุคคลเดียวหรือช่วยสนับสนุนการตัดสินใจเป็นกลุ่ม นอกจากนั้น ยังมีระบบสนับสนุนผู้บริหารเพื่อช่วยผู้บริหารในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์..
EIS (Executive Information System: EIS)ระบบสารสนเทศเพื่อผู้บริหารระดับสูง (Executive Information System: EIS) ระบบสารสนเทศเพื่อผู้บริหารระดับสูง คือ MIS ประเภทพิเศษที่ถูกพัฒนาสำหรับผู้บริหารระดับสูง โดยเฉพาะช่วยให้ผู้บริหารระดับสูงที่ไม่คุ้นเคยกับเครื่องคอมพิวเตอร์สามารถ ใช้ระบบสารสนเทศได้ง่ายขึ้น โดยใช้เมาส์เลื่อนหรือจอภาพแบบสัมผัส เพื่อเชื่อมโยงข่าวสารระหว่างกันทำให้ผู้บริหารไม่ต้องจำคำสั่งคุณสมบัติของระบบ EIS - มีการใช้งานบ่อย - ไม่ต้องมีทักษะทางคอมพิวเตอร์สูง - ความยืดหยุ่นสูงสามารถเข้ากันได้กับรูปแบบการทำงานของผู้บริหาร - การใช้งานใช้ในการตรวจสอบ ควบคุม - การสนับสนุนการตัดสินใจไม่มีโครงสร้างแน่นอน - ผลลัพธ์ที่แสดงจะเป็นตัวอักษร ตาราง ภาพและเสียง รวมทั้งระบบมัลติมีเดีย - การใช้งานภาพกราฟิกสูง จะใช้รูปแบบการนำเสนอต่างๆ - ความเร็วในการตอบสนองรวดเร็วทันทีทันใดประโยชน์ของของระบบ EIS 1. ง่ายต่อผู้บริหารระดับสูงในการใช้งาน 2. การใช้งานไม่จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์ 3. ให้สารสนเทศสรุปของบริษัทในเวลาที่ต้องการ 4. ทำให้สามารถเข้าในสารสนเทศได้ดีขึ้น 5. มีการกรองข้อมูลให้ประหยัดเวลา 6. ทำให้ระบบสามารติดตามสารสนเทศได้ดีขึ้น
GDSS (Group Decision Support Systems)ลักษณะของระบบสนันสนุนการตัดสินใจแบบกลุ่ม1. เป็นระบบสารสนเทศที่ถูกออกแบบขึ้นโดยเฉพาะ ซึ่งไม่ใช่การนำองค์ประกอบต่างๆ ที่มีอยู่แล้ว มาประยุกต์ใช้แต่จะต้องสร้างขึ้นมาใหม่จึงจะเรียกว่าเป็นระบบ GDSS2. ระบบสนับสนุนการตัดสินใจแบบกลุ่ม ถูกออกแบบมาโดยมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงกระบวนการตัดสินใจขององค์ประชุม3. ระบบสนับสนุนการตัดสินใจอาจถูกออกแบบมาเพียงเพื่อต้องการแก้ปัญาหาเฉพาะหน้า หรือแก้ไขปัญหาทั่วไปก็ได้4. ระบบสนับสนุนการตัดสินใจจะต้องง่ายต่อการเรียนรู้ และใช้งานได้สะดวก อีกทั้งยังอาจให้ความหลากหลายกับผู้ใช้ในแต่ละระดับที่เกี่ยวข้องกับความรู้ การประมวลผล และการสนับสนุนการตัดสินใจ5. มีกลไกที่ให้ผลในเรื่องการปรับปรุงจุดบกพร่องที่เกิดจกพฤติกรรมของผู้เข้าร่วมประชุม เช่นการขจัดความขัดแย้งในที่ประชุม6. ระบบจะต้องออกแบบให้มีความสามารถในการกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมต่างๆ เช่น กระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ประโยชน์ของ GDSS1. ช่วยในการเตรียมความพร้อมในการประชุม2. มีการจัดเตรียมข้อมูลและสารสนเทศที่เหมาะสมในการประชุม3. สร้างบรรยากาศในการร่วมมือกันระหว่างสมาชิก4. สนับสนุนการมีส่วนร่วมและกระตุ้นการแสดงความคิดเห็นของสมาชิก5. มีการจัดลำดับความสำคัญก่อนหลังของปัญหา6. ช่วยให้การประชุมบรรลุผลในระยะเวลาที่สมควร7. มีหลักฐานการประชุมแน่ชัด
2.จงบอกความแตกต่างระหว่าง EIS เเละ GDSS
ระบบของ GDSS จะเน้นออกแบบไปในทางที่ประชากรเป็นกลุ่มๆ ทางด้านความสามารถนั้นจะต้องหาบุคลากรที่มีความชำนาญในด้านนี้พอสมควร ในด้านข้อมูลถือว่ามีความละเอียดสูงโดยจะได้รับความคิดเห็นได้หลากหลาย แล้วนำข้อเสนอหรือความคิดเห็นมาปรับปรุงแก้ไขได้ ส่วนของระบบ EIS จะเน้นไปในทางของผู้บริหารเพียงอย่างเดียว ข้อมูลที่ได้มีความรวดเร็วเป็นสถานการณ์ปัจจุบัน โดย จะสามารถวิเคราะห์แนวโน้มในภายภาคหน้าได้ ซึ่งเป็นระบบสำคัญให้กับองค์กรหรือบริษัทของผู้บริหารเป็นอย่างดี เป็นตัวช่วยในหารตัดสินใจที่ดี
วันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
ใบงานที่ 1
ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ (Decision Support System)
ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ (Decision Support System) เป็นระบบย่อยหนึ่งในระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ โดยที่ระบบสนับสนุนการตัดสินใจจะช่วยผู้บริหารในเรื่องการตัดสินใจในเหตุการณ์หรือกิจกรรมทางธุรกิจที่ไม่มีโครงสร้างแน่นอน หรือกึ่งโครงสร้าง ระบบสนับสนุนการตัดสินใจอาจจะใช้กับบุคคลเดียวหรือช่วยสนับสนุนการตัดสินใจเป็นกลุ่ม นอกจากนั้น ยังมีระบบสนับสนุนผู้บริหารเพื่อช่วยผู้บริหารในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ ได้เริ่มขึ้นในช่วง ปี ค.ศ. 1970 โดยมีหลายบริษัทเริ่มที่จะพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อที่จะช่วยผู้บริหารในการตัดสินใจปัญหาที่ไม่มีโครงสร้างที่แน่นอน หรือกึ่งโครงสร้างโดยข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงตลอด ซึ่งระบบสารสนเทศเดิมที่ใช้ในลักษณะระบบการประมวลผลรายการ (Transaction processing system) ไม่สามารถกระทำได้ นอกจากนั้นยังมีวัตถุประสงค์เพื่อลดแรงงาน ต้นทุนที่ต่ำลงและยังช่วยในเรื่องการวิเคราะห์การสร้างตัวแบบ (Model) เพื่ออธิบายปัญหาและตัดสินใจปัญหาต่างๆ จนกระทั่งปี ค.ศ. 1980 ความพยายามในการใช้ระบบนี้เพื่อช่วยในการสนับสนุนการตัดสินใจได้แพร่ออกไป ยังกลุ่มและองค์การต่างๆ
ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ คืออะไร
DSS เป็นซอฟแวร์ที่ช่วยในการตัดสินใจเกี่ยวกับการจัดการ การรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล และการสร้างตัวแบบที่ซับซ้อน ภายใต้ซอฟต์แวร์เดียวกัน นอกจากนั้น DSS ยังเป็นการประสานการทำงานระหว่างบุคลากรกับเทคโนโลยีทางด้านซอฟต์แวร์ โดยเป็นการกระทำโต้ตอบกัน เพื่อแก้ปัญหาแบบไม่มีโครงสร้าง และอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้ใช้ตั้งแต่เริ่มต้นถึงสิ้นสุดขั้นตอนหรืออาจกล่าวได้ว่า DSS เป็นระบบที่โต้ตอบกันโดยใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อหาคำตอบที่ง่าย สะดวก รวดเร็วจากปัญหาที่ไม่มีโครงสร้างที่แน่นอน ดังนั้นระบบการสนับสนุนการตัดสินใจ จึงประกอบด้วยชุดเครื่องมือ ข้อมูล ตัวแบบ (Model) และทรัพยากรอื่นๆ ที่ผู้ใช้หรือนักวิเคราะห์นำมาใช้ในการประเมินผลและแก้ไขปัญหา ดังนั้นหลักการของ DSS จึงเป็นการให้เครื่องมือที่จำเป็นแก่ผู้บริหาร ในการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีรูปแบบที่ซับซ้อน แต่มีวิธีการปฏิบัติที่ยืดหยุ่น DSS จึงถูกออกแบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ไม่เพียงแต่การตอบสนองในเรื่องความต้องการของข้อมูลเท่านั้น
วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2557
วันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องหลายขั้นตอน และแต่ละขั้นตอนจะมีความสำคัญต่อโครงงานนั้น ๆ การแบ่งขั้นตอนของการทำโครงงานอาจแตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะของโครงงานและการวางแผนการทำโครงงานในที่นี้จะบ่งการทำงานออกเป็น 6 ขั้นตอนดังนี้
1. การคัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจทำ
โดยทั่วไปเรื่องที่จะนำมาพัฒนาเป็นโครงงานคอมพิวเตอร์ มักจะได้มาจากปัญหา คำถาม หรือความสนใจในเรื่องต่าง ๆ จากการสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัว นักเรียนสามารถจะศึกษาการได้มาของเรื่องที่จะทำโครงงาน การอ่านค้นคว้า การไปเยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ การฟังบรรยาย รายการวิทยุโทรทัศน์ สนทนาอภิปราย กิจกรรมการเรียนการสอน งานอดิเรก การเข้าชมงานนิทรรศการหรืองานประกวดโครงงานคอมพิวเตอร์ ในการตัดสินใจเลือกหัวข้อที่จะนำมาพัฒนาโครง
2. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
รวมถึงการขอคำปรึกษาจากผู้ทรงคุณวุฒิช่วยจะช่วยให้นักเรียนได้แนวคิดที่ใช้ในการกำหนดของเขตของเรื่องที่จะศึกษาได้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งความรู้เพิ่มเติมในเรื่งที่จะศึกษาจนสามารถใช้ออกแบบและวางแผนดำเนินการทำโครงงานนั้นได้อย่างเหมาะสมในการศึกษาค้นคว้าดังกล่าว นักเรียนจะต้องบันทึกสรุปสาระสำคัญไว้ด้วยจะต้องพิจารณาดังนี้ มูลเหตุจูงใจและเป้าหมายในการทำ วัสดุอุปกรณ์ ความต้องการของผู้ใช้งานและคุณลักษณะของผลงาน (Requirement and Specification) วิธีการประเมินผล วิธีการพัฒนา ข้อสรุปของโครงงาน ความแปลกใหม่ ความคิดสร้างสรรค์ แนวทางในการปรับปรุงหรือขยายการทดลองจากงานเดิม
3. การจัดทำเค้าโครงของโครงงานที่จะทำ
จำเป็นต้องกำหนดกรอบแนวคิดและวงแผนการพัฒนาล่วงหน้าเพื่อคาดการณ์ความเป็นไปได้ของโครงงาน ขั้นตอนที่สำคัญคือ ศึกษาค้นคว้าเอกสาร วิเคราะห์ข้อมูล ออกแบบการพัฒนา เสนอเค้าโครงของโครงงานต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อขอคำแนะนำและปรับปรุงแก้ไข
4. การลงมือทำโครงงาน
เมื่อเค้าโครงได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ที่ปรึกษาแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการพัฒนาตามขั้นตอนที่ได้วางแผนไว้ดังนี้ เตรียมการ ลงมือพัฒนา ตรวจสอบผลงานและแกไข อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ แนวทางในการพัฒนาโครงงานในอนาคต
5. การเขียนรายงาน
เป็นสื่อความหมายเพื่อให้ผู้อื่นได้เข้าใจแนวความคิด วิธีดำเนินการศึกษาค้นคว้า ข้อมูลที่ได้ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่าง ๆ เกี่ยวกับโครงงานนั้น ในการเขียนควรใช้ภาษาที่อ่านเข้าใจได้ง่าย ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรงมาให้ครอบคลุมหัวข้อต่าง ๆ
6. การนำเสนอและการแสดงผลงานของโครงงาน
เป็นการนำเสนอเพื่อแสดงออกถึงผลิตผลของความคิด ความพยายามในการทำงานที่ผู้ทำโครงงานได้ทุ่มเท และเป็นวิธีที่ให้ผู้อื่นได้รับรู้และเข้าใจในโครงงานนั้น ในการเสนออาจทำได้หลายรูปแบบ เช่น ติดโปสเตอร์ การรายงานตัวในที่ประชุม การแสดงผลงานด้วยสื่อต่าง การจัดนิทรรศการ การอธิบายด้วยคำพูด
Cr.http://ipattapong.wordpress.com/2011/12/28/%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A1/
Cr.http://ipattapong.wordpress.com/2011/12/28/%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A1/
วันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
ตัวอย่างโครงงาน
ชื่อโครงงาน : Smart Home บ้านอัจฉริยะ
ผู้พัฒนาเล็งเห็นว่าวิกฤติพลังงาน และการมิได้รับการสนับสนุนและช่วยเหลืออย่างเพียงพอของผู้สูงอายุและผู้พิการในประเทศไทยเป็นวาระสำคัญของชาติ เราจึงมีความคิดที่จะพัฒนาโครงการนี้ไม่เพียงแค่อำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งานทั่วไปแต่ยังคำนึงถึงผู้สูงอายุและผู้พิการด้วย โดยผู้ใช้งานสามารถควบคุมและตรวจสอบเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านตนเองได้ง่ายๆผ่านการสั่งงานทาง Web application
ผู้พัฒนามีความคิดที่จะพัฒนาชุดโปรแกรมนี้ควบคู่กับการสั่งงานด้วยสียงเพื่ออำนวยความสะดวกผู้พิการยิ่งขึ้นไป นอกจากนี้ยังมีการนำ sensor มาปรับใช้ในลักษณะของระบบรักษาความปลอดภัยด้วย
ทั้งนี้ทั้งนั้นโครงการเกิดขึ้นได้เพราะผู้พัฒนาเล็งเห็นว่าเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีการสื่อสารของประทศไทยนั้นมีศักยภาพ
ที่มา : http://www.vcharkarn.com/project/view/655
สรุป
เพื่อความสะดวกสบายจึงคิดโครงงานที่จะควบคุมและตรวจสอบเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านตนเองได้ง่ายๆผ่านการสั่งงานทาง Web application
ผู้พัฒนาเล็งเห็นว่าวิกฤติพลังงาน และการมิได้รับการสนับสนุนและช่วยเหลืออย่างเพียงพอของผู้สูงอายุและผู้พิการในประเทศไทยเป็นวาระสำคัญของชาติ เราจึงมีความคิดที่จะพัฒนาโครงการนี้ไม่เพียงแค่อำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งานทั่วไปแต่ยังคำนึงถึงผู้สูงอายุและผู้พิการด้วย โดยผู้ใช้งานสามารถควบคุมและตรวจสอบเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านตนเองได้ง่ายๆผ่านการสั่งงานทาง Web application
ผู้พัฒนามีความคิดที่จะพัฒนาชุดโปรแกรมนี้ควบคู่กับการสั่งงานด้วยสียงเพื่ออำนวยความสะดวกผู้พิการยิ่งขึ้นไป นอกจากนี้ยังมีการนำ sensor มาปรับใช้ในลักษณะของระบบรักษาความปลอดภัยด้วย
ทั้งนี้ทั้งนั้นโครงการเกิดขึ้นได้เพราะผู้พัฒนาเล็งเห็นว่าเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีการสื่อสารของประทศไทยนั้นมีศักยภาพ
ที่มา : http://www.vcharkarn.com/project/view/655
สรุป
เพื่อความสะดวกสบายจึงคิดโครงงานที่จะควบคุมและตรวจสอบเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านตนเองได้ง่ายๆผ่านการสั่งงานทาง Web application
วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2557
กิจกรรม-โครงงานคอมพิวเตอร์
1.โครงงานคอมพิวเตอร์ฺ หมายถึงอะไร?
ตอบ กิจกรรมการเรียนที่นักเีรียนมีอิสระในการเลือกศึกษาปัญหาที่ตนเองสนใจ โดยจะต้องวางแผนการดำเนินงาน ศึกษา พัฒนาโปรแกรม โดยใช้ความรู้ทางกระบวนการวิศวกรรมซอฟต์แวร์ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนทักษะพื้นฐานในการพัฒนาโครงงาน เรื่องที่นักเรียนสนใจและคิดจะทำโครงงาน ซึ่งอาจมีผู้ศึกษามาก่อน หรือเป็นเรื่องที่นักพัฒนาโปรแกรมได้เคยค้นคว้าและพัฒนาแล้ว นักเรียนสามารถทำโครงงานเรื่องดังกล่าวได้ แต่ต้องคิดดัดแปลงแนวทางในการศึกษา การวิเคราะห์ข้อมูล การพัฒนาโปรแกรม หรือศึกษาเพิ่มเติมจากผลงานเดิมที่มีผู้รายงานไว้ จุดมุ่งหมายสำคัญของการทำโครงงานเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรงในการใช้ระบบคอมพิวเตอร์แก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ใช้คอมพิวเตอร์ในการพัฒนาสื่อการเรียนรู้เพื่อการศึกษา ประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ พัฒนาโปรแกรมประยุกต์ต่างๆ ตลอดจนการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ เพื่อฝึกให้นักเรียนเป็นบุคคลที่ใฝ่เรียนใฝ่รู้ การพัฒนาความคิดใหม่ๆ ความมีคุณธรรมจริยธรรม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ให้กับเพื่อนมนุษย์ และอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข
2.โครงงานคอมพิวเตอร์ฺ มีกี่ประเภท อะไรบ้าง?
ตอบ 5ประเภท
3.ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์ฺ ยกตัวอย่าง 2 โครงงาน
1.ชื่อ ดิกส์ พูดได้
รายละเอียด จากการสำรวจนักเรียนการใช้ภาษาอังกฤษมีปัญหาในหลายด้านนักเรียนไม่สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ถูกต้องและจากการวิเคราะห์การที่จะใช้ภาษาอังกฤษได้ดีและถูกต้องนั้นต้องเริ่มจากการจำคำศัพท์ ทางผู้พัฒนาจึงพัฒนาโปรแกรมดิกพูดได้(Talking Dictionary)ขึ้นมาเพื่อช่วยในการจำคำศัพท์โดยเพิ่มฟังก์ชันให้กับโปรแกรม Dictionary คือ คำสั่งเสียง โดยผู้ใช้โปรแกรมนี้สามารถใช้คำสั่งเสียงในการค้นหาคำศัพท์ได้โดยสั่งเป็นตัวพยัญชนะภาษาอังกฤษทีละตัว โปรแกรมจะทวนคำศัพท์อีกครั้ง ผู้ใช้โปรแกรมจะสามารถให้โปรแกรมอ่านคำศัพท์นี้กี่ครั้งก็ได้ นอกจากนี้โปรแกรม Talking
Dictionary นี้ยังสารถฝึกการออกเสียงภาษาอังกฤษที่ถูกต้องต่อผู้ที่ใช้โปรแกรมนี้ด้วยเพราะถ้าผู้ใช้
โปรแกรมออกเสียงไม่ตรงกับเสียงในระบบก็จะแสดงผลตัวอักษรผิดไม่ตรงกับที่ออกเสียงมา จากที่ทาง
ผู้พัฒนาได้เพิ่มฟังก์ชันการใช้ที่หลากหลายเข้าไปก็ทำให้โปรแกรม Dictionary ที่วิธีใช้คือการพิมพ์เพื่อ
หาคำศํพท์ดูน่าสนใจมากขึ้นเพราะมีฟังก์ชันหลากหลายสามารถเลือกใช้ได้ตามความถนัด และความสนใจและสะดวกในการใช้สำหรับผู้ที่พิการทางมือด้วย
2.ชื่อ ต้นไม้เพื่อโลก
รายละเอียด เพื่อให้บุคคลโดยทั่วไป ได้มีส่วนร่วมในการลดภาวะโลกร้อน และช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่โดยการปลูกป่าทดแทน ด้วยวิธีการเล่นเกมส์โดยใช้คอมพิวเตอร์ ซึ่งมีวิธีการเล่นดังนี้ คือเราจะกำหนดเวลาในแต่ละด่าน เพื่อฝึกให้ผู้เล่นรู้จักการทำงานแข่งกับเวลาโดยแต่ละด่านเราจะมีเวลาให้ผู้เล่นคือ 3 นาที ซึ่งเราจะกำหนดให้มีจำนวนต้นไม้เพิ่มมากขึ้นในแต่ละด่านซึ่งด่านแรกเราจะมีต้นไม้ให้ปลูกจำนวน 10 ต้น ซึ่งต้นไม้แต่ละต้นจะใช้เวลาในการปลูกรวม 13 วินาที แต่ในขณะเดียวกันเมื่อเราปลูกต้นไม้ต้นแรกแล้วระหว่างที่เรารอให้ต้นไม้โตเราก็สามารถที่จะปลูกต้นไม้อีกต้นได้เหมือนกัน เมื่อเราผ่านด่านแล้วจำนวนต้นไม้ที่จะปลูกจะมีเพิ่มขึ้นอีก 5 ต้นในแต่ละด่านต่อไปเรื่อย ๆ ซึ่งเกมส์นี้จะมีทั้งหมด 5 ด่าน แล้วก็จบเกมส์
คำศัพท์คอมพิวเตอร์
1. E-mail = จดหมาย
2. Chat = การสื่อสารผ่านเครือข่าย
3. Web cam = กล้องสำหรับติดต่อ
4. Modem = เครื่องแปลสัญญาณ
5. Wireless Card = การ์ดเครือข่ายไรสาย
6. Icon = สัญลักษณ์
7. Desktop = พื้นหลังของหน้าจอ
8. Task bar = แถบงาน
9. Stand By = สแตนด์บาย
10. Turn Off = ปิดเครื่อง
11. Restart = รีสตาร์ท
12.Data = ขอมูล
13. Source = แหล่งกำเนิดข่าวสาร
14.Sink = จุดหมายปลายทางของสาร
15.Medium Data = สื่อกลางนำข้อมูล
16.Database = ฐานข้อมูล
17.Copy = คัดลอก
18.Delete = ลบข้อมูล
19.Open = เปิดเอกสาร
20.File = ที่เก็บเอกสาร
21.Minimize = ย่อขนาดเล็กสุด
22.Maximize = ขยายใหญ่สุด
23.Task = งานหนัก
24.Scheme = แผนผัง
25.Symbol = เครื่องหมาย
26.GPS = สัญญาณแผนที่บนโลก
27.Password = รหัสผ่าน
29. E-card = บัตรอวยพร
30. Theme = หัวข้อเรื่อง
31. Wan = ข่ายงานบริเวณกว่าง
32. Web page = หน้าเว็บ
33. Sticker = ฉลากติด
34. Folder = แฟ้มเก็บงาน
35. Format = รูปแบบ
36. Access Point = ตำแหน่งที่เข้าถึงสัญญาณ
37. Document = เอกสาร
38. Explorer = นักสำรวจ
39. Hyperlink = การเชื่อมโยงหลายมิติ
40. Normal = ปกติ ธรรมดา
41. Internet = ระบบเครือข่ายขนาดใหญ่
42. Border = ชายแดน ขอบ ริม
43. Card = บัตร แผ่นวงจร
44. Restore = ฟื้นฟู ซ่อมแซม
45. Engine = เครื่อง ประมวลผล
46. Cursor = แสงกระพริบบอกตำแหน่ง
47. LAN = ข่ายงานบริเวณเฉพาะที่
48. Operator = ผู้ควบคุม
49. Directories = สารบบ
50.Close = ปิดโปรแกรม
Cr: http://summaalandsahara.blogspot.com/2010/08/100.html
2. Chat = การสื่อสารผ่านเครือข่าย
3. Web cam = กล้องสำหรับติดต่อ
4. Modem = เครื่องแปลสัญญาณ
5. Wireless Card = การ์ดเครือข่ายไรสาย
6. Icon = สัญลักษณ์
7. Desktop = พื้นหลังของหน้าจอ
8. Task bar = แถบงาน
9. Stand By = สแตนด์บาย
10. Turn Off = ปิดเครื่อง
11. Restart = รีสตาร์ท
12.Data = ขอมูล
13. Source = แหล่งกำเนิดข่าวสาร
14.Sink = จุดหมายปลายทางของสาร
15.Medium Data = สื่อกลางนำข้อมูล
16.Database = ฐานข้อมูล
17.Copy = คัดลอก
18.Delete = ลบข้อมูล
19.Open = เปิดเอกสาร
20.File = ที่เก็บเอกสาร
21.Minimize = ย่อขนาดเล็กสุด
22.Maximize = ขยายใหญ่สุด
23.Task = งานหนัก
24.Scheme = แผนผัง
25.Symbol = เครื่องหมาย
26.GPS = สัญญาณแผนที่บนโลก
27.Password = รหัสผ่าน
29. E-card = บัตรอวยพร
30. Theme = หัวข้อเรื่อง
31. Wan = ข่ายงานบริเวณกว่าง
32. Web page = หน้าเว็บ
33. Sticker = ฉลากติด
34. Folder = แฟ้มเก็บงาน
35. Format = รูปแบบ
36. Access Point = ตำแหน่งที่เข้าถึงสัญญาณ
37. Document = เอกสาร
38. Explorer = นักสำรวจ
39. Hyperlink = การเชื่อมโยงหลายมิติ
40. Normal = ปกติ ธรรมดา
41. Internet = ระบบเครือข่ายขนาดใหญ่
42. Border = ชายแดน ขอบ ริม
43. Card = บัตร แผ่นวงจร
44. Restore = ฟื้นฟู ซ่อมแซม
45. Engine = เครื่อง ประมวลผล
46. Cursor = แสงกระพริบบอกตำแหน่ง
47. LAN = ข่ายงานบริเวณเฉพาะที่
48. Operator = ผู้ควบคุม
49. Directories = สารบบ
50.Close = ปิดโปรแกรม
Cr: http://summaalandsahara.blogspot.com/2010/08/100.html
วันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2557
วันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2557
บริการต่างๆบนอินเตอร์เน็ต
1.Search
เป็นเว็บไซต์ที่มีเครื่องมือในการที่จะค้นหาเว็บไซต์ต่าง ๆ มาเก็บไว้ในฐานข้อมูลของ ตัวเองโดยอัตโนมัติ เช่น Google.com หรือ Altavista.com ซึ่งเครื่องมือนี้ มีชื่อเรียกว่า Search Robot จะทำหน้าที่คอยวิ่งเข้าไปอ่านข้อความจากหน้าเว็บไซต์ ของเว็บต่าง ๆ แล้วนำมาจัดลำดับคำค้นหา (Index) ที่มีในเว็บไซต์เหล่านั้น เก็บไว้ในฐานข้อมูลของตนเอง เมื่อเราเข้าไปใช้บริการ
2.การโอนย้ายข้อมูล (File Transfer Protocol : FTP)
oooooการโอนย้ายข้อมูล หรือที่นิยมเรียกกันว่า FTP เป็นการสื่อสารอีกรูปแบบหนึ่งที่ใช้กันมากพอสมควรในอินเตอร์เน็ต โดยอาจใช้เพื่อการถ่ายโอนข้อมูลรวมถึงโปรแกรมต่าง ๆ ทั้งที่เป็น freeware sharewareจากแหล่ง ข้อมูลทั้งหลายมายังเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ใช้งานอยู่ ปัจจุบันมีหน่วยงานหลายแห่งที่กำหนดให้ Serverของตนทำหน้าที่เป็น FTP site เก็บรวบรวมข้อมูลและโปรแกรมต่าง ๆ สำหรับให้บริการ FTP ที่นิยมใช้กันมากได้แก่WS_FTP, CuteFTP
3.จดหมายอิเลคทรอนิกส์ (Electronic Mail)
oooooจดหมายอิเลคทรอนิกส์หรือที่เรียกกันว่า E-mailเป็นการสื่อสารที่นิยมใช้กันมากเนื่องจากผู้ใช้สามารถติดต่อสื่อสารกับบุคคลที่ต้องการได้รวดเร็ว ภายในระยะเวลาอันสั้น ไม่ว่าจะอยู่ในที่ทำงานเดียวกันหรืออยู่ห่างกันคนละมุมโลกก็ตามนอกจากนี้ยังสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายน้อยมาก
เว็บเบราเซอร์ (ฺWeb Browser)
1. นักเรียนใช้ Internet สำหรับทำอะไร ให้นักเรียนตอบมา 10 อย่าง
ตอบ 1.หาข้อมูลต่างๆ
2.ดูข่่าวสารต่างๆ
3.ฟังเพลง
4.เล่นเกมส์
5.ทำธุรกิจ
6.ติดต่อสื่อสาร
7.ซื้อของผ่านอินเตอร์เน็ต
8.เรียนออนไลน์
9.ดาวน์โหลดข้อมูล
10.การแสดงความคิดเห็นและการแชท
2. เว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) หมายถึงอะไร ?
ตอบ Browser คือเครื่องมือที่ช่วยให้คุณสามารถท่องเที่ยวไปในโลกอินเตอร์เน็ตได้อย่างไร้ขีดกั้นทางด้านพรมแดน นอกจากนี้ Browser ยังช่วยอำนวยความสะดวกในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งในขณะนี้บริษัทผลิตซอฟแวร์ค่ายต่างๆ นับวันจะทวีการแข่งขันกันในการผลิต Browser เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่นักท่องเว็บให้มากที่สุด หน้าตาของ browser แตกต่างกันไปตามแต่การออกแบบการใช้งานของแต่ละค่ายโปรแกรม
Cr:http://xn--webbrowser-zc5aprjea9b5g9j.blogspot.com/
3.ยกตัวอย่างเว็บเบราว์เซอร์ มา 4 โปรแกรม (พร้อมรูปภาพ)
ตอบ Google Chrome, Mozilla Firefox ,Internet explorer เเละ Safari
Cr:http://www.google.co.th/search?
ตอบ 1.หาข้อมูลต่างๆ
2.ดูข่่าวสารต่างๆ
3.ฟังเพลง
4.เล่นเกมส์
5.ทำธุรกิจ
6.ติดต่อสื่อสาร
7.ซื้อของผ่านอินเตอร์เน็ต
8.เรียนออนไลน์
9.ดาวน์โหลดข้อมูล
10.การแสดงความคิดเห็นและการแชท
2. เว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) หมายถึงอะไร ?
ตอบ Browser คือเครื่องมือที่ช่วยให้คุณสามารถท่องเที่ยวไปในโลกอินเตอร์เน็ตได้อย่างไร้ขีดกั้นทางด้านพรมแดน นอกจากนี้ Browser ยังช่วยอำนวยความสะดวกในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งในขณะนี้บริษัทผลิตซอฟแวร์ค่ายต่างๆ นับวันจะทวีการแข่งขันกันในการผลิต Browser เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่นักท่องเว็บให้มากที่สุด หน้าตาของ browser แตกต่างกันไปตามแต่การออกแบบการใช้งานของแต่ละค่ายโปรแกรม
Cr:http://xn--webbrowser-zc5aprjea9b5g9j.blogspot.com/
3.ยกตัวอย่างเว็บเบราว์เซอร์ มา 4 โปรแกรม (พร้อมรูปภาพ)
ตอบ Google Chrome, Mozilla Firefox ,Internet explorer เเละ Safari
Cr:http://www.google.co.th/search?
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)